เฮงซัง, วรวุธ เข้าร่วมสัมมนาโค้ชโอลิมปิกส์ของเอเอฟซี

วรวุธ ศรีมะฆะ และ วิทยา เลาหกุล ได้เป็นตัวแทนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการเข้าร่วมสัมมนาผู้ฝึกสอนทีมชาติชุดโอลิมปิกส์ ประจำปี 2018 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี)

โดยการสัมมนาหัวข้อ “มุ่งสู่โตเกียว 2020” (Towards Tokyo 2020) ได้เชิญผู้ฝึกสอนชุดโอลิมปิกส์และผู้อำนวยการเทคนิคจากทั่วทั้งทวีปมาพูดคุยกันเป็นเวลา 3 วัน เพื่อยกตัวอย่างกรณีศึกษาถึงความท้าทายในการเตรียมความพร้อมสำหรับรายการแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงแนวทางสู่ความสำเร็จสำหรับชาติในเอเชีย เมื่อมหกรรมกีฬาโอลิมปิกส์มาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า

สำหรับในวันสุดท้ายของการสัมมนาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อผู้เข้าร่วมสัมมนาได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวข้อมูลเชิงลึกจาก คาร์ลอส เคยรอช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ผู้มีประสบการณ์มากมายกับทีมชาติโปรตุเกส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด

โดยเคยรอชได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนและเตรียมตัวอย่างเนิ่นๆ ว่า “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการวางแผนและเตรียมตัวตั้งแต่แรก ฟุตบอลเอเชียต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่จำเพาะเจาะจงกับฟุตบอลในทวีปนี้”

“นักเตะคือศูนย์กลางของทุกอย่างที่เราทำ และในการสัมมนาครั้งนี้ เราหวังว่าผู้ฝึกสอนในทวีปเอเชียจะมีโอกาสได้พัฒนานักเตะอย่างมีคุณภาพมากขึ้น” เคยรอชผู้พาทีมชาติอิหร่านไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 และถือเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันที่เขาพาทีมชาติเข้าสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นับตั้งแต่ครั้งแรกกับทีมชาติโปรตุเกสเมื่อปี 2010

และในช่วง 3 วันที่ผ่านมา การสัมมนายังประกอบด้วยการนำเสนอและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงการฟุตบอล อันประกอบด้วย พาร์ค ชี ซอง อดีตกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้, บรานิเมียร์ ยูเยวิช หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ฝึกสอนและนักเตะของฟีฟ่า รวมถึง เยนส์ บังสโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสของเอเอฟซี ผู้เคยเป็นผู้ช่วยของ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ที่ยูเวนตุสมาก่อน

ซึ่งทางด้านของ คิม พัน กอน ผู้อำนวยการเทคนิคและรองประธานสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้กล่าวว่า “การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการเปิดหูเปิดตาพวกเราหลายคน ถือเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่จะยกตัวอย่างกรณีศึกษาจากกระแสต่างๆ รวมถึงในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่จีนเมื่อเร็วๆนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องมุ่งสมาธิไปกับการเตรียมทีมสำหรับโอลิมปิกส์รอบคัดเลือกสมัยหน้า”

 “ตั้งแต่ช่วงการวิเคราะห์เชิงเทคนิคไปจนถึงการหารือกันในกลุ่ม ผมอยากกล่าวขอบคุณเอเอฟซีที่มีความกระตือรือร้นเพื่อทำให้แน่ใจว่าเรามีการเตรียมตัวอย่างดีสำหรับรับมือกับความท้าทายหลายๆอย่าง และมีการเตรียมทีมสำหรับรายการแข่งขันที่ใหญ่ระดับนานาชาติได้ดีขึ้น”

นอกจากนี้การสัมมนายังได้มีการอภิปรายกันอย่างจริงจัง นำโดย แอนดี้ ร็อกซ์เบิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของเอเอฟซี เกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จบนเวทีนานาชาติรวมถึงรายการที่ใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลก

“วิสัยทัศน์และภารกิจของเอเอฟซีถือว่ามีความตั้งใจชัดเจนที่จะเห็นทีมและนักเตะของตัวเองประสบความสำเร็จบนเวทีที่ใหญ่ที่สุด และผู้ฝึกสอนของเราก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและลงทุนลงแรงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย” แอนดี้ ร็อกซ์เบิร์ก กล่าว

“นอกเหนือจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ชาติสมาชิกได้พัฒนาความสามารถตัวเองแล้ว การสัมมนาครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกรวมถึงผลตอบรับ เพื่อที่จะได้หาทางแก้ไข ตลอดจนทำให้มีการเตรียมตัวสำหรับนักเตะและทีมที่ดีขึ้นเพื่อความสำเร็จในอนาคต”