แรชฟอร์ดควงเฟลไลนี่สวมบทซูเปอร์ซับช่วยยูไนเต็ดเบียดเลสเตอร์คว้าชัย 2-0

มาร์คัส แรชฟอร์ด ควงแขน มารูยาน เฟลไลนี่ สวมบทซูเปอร์ซับช่วยกันยิงคนละประตู นำต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบียดเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ยากเย็น 2-0 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560

เกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทยอยได้ผู้เล่นกลับคืนสู่ทีมเกือบครบทุกราย ขาดแค่ มาร์กอส โรโฮ ที่ยังเจ็บอยู่ โดย กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ วาง โรเมลู ลูกากู รับบทหัวหอกตัวเป้า มี ปอล ป็อกบา, เฮนริคห์ มาคิตาร์ยาน และ ฆวน มาต้า คอยสนับสนุน

ส่วนผู้มาเยือน เลสเตอร์ ของกุนซือ เคร็ก เช็คสเปียร์ ไม่มี แดเนียล ดริงค์วอเตอร์, โรเบิร์ต ฮูธ, บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ เวส มอร์แกน ที่ไม่สมบูรณ์ แต่ตัวหลักอย่าง เจมี่ วาร์ดี้, ชินจิ โอกาซากิ, รียาด มาห์เรซ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยังอยู่ช่วยทีม

เริ่มครึ่งแรกมา 17 แมนฯ ยูไนเต็ด เฮเก้อ จากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา วางเท้าสับไกด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเรียดติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าทาง ฆวน มาต้า ตามซ้ำดาบสองตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด พับสนามบุก และพลาดโอกาสทองในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่ อ็องโตนี่ มาร์ซิยัล ครอสบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษ บอลโดนแขน แดนนี่ ซิมพ์สัน จังเบอ แต่ โรเมลู ลูกากู รับหน้าที่สังหารจุดโทษไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล น่าเสียดาย

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ ในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ เฮนริคห์ มาคิตาร์ยาน เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าเขตโทษ บอลหลุดไปถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้วางเท้าวอลเลย์ตามน้ำผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ไม่เหลือซาก

ท้ายเกมนาทีที่ 82 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตอกฝาโลง 2-0 จากจังหวะที่ เจสซี่ ลินการ์ด อีกหนึ่งตัวสำรอง ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตัดสินใจยิงยัดไปหน้าประตู บอลเป็นใจแฉลบ มารูยาน เฟลไลนี่ เปลี่ยนทางผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ตุงตาข่าย

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ มารูยาน เฟลไลนี่ ลงมาสวมบทซูเปอร์ซับ ช่วยทีมเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด เอาชนะ เลสเตอร์ 2-0 เก็บ 9 คะแนนเต็ม จาก 3 นัด ยิงได้ 10 ลูก แถมยังไม่เสียประตูให้ใคร นำเป็นจ่าฝูงต่อไป

สรุปผลคู่อื่น

บอร์นมัธ 1-2 แมนฯ ซิตี้

พาเลซ 0-2 สวอนซี

ฮัดเดอร์สฟิลด์ 0-0 เซาธ์แฮมป์ตัน

นิวคาสเซิล 3-0 เวสต์แฮม

วัตฟอร์ด 0-0 ไบรจ์ตัน