วรชิต เผยโอกาสเซ็นสัญญาอาชีพที่ญี่ปุ่น

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางดาวรุ่งชลบุรี เอฟซี เปิดใจผ่าน โกล ประเทศไทย หลังจากล่าสุดเสร็จสิ้นการเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ โออิตะ ทรินิต้า ทีมในศึกเจลีก 2 ญี่ปุ่น เป็นเวลา 1 สัปดาห์

วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยถึงการทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ โดยระบุว่าโอกาสเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 50-50 หลัง โออิตะ ทรินิต้า ต้องการให้ วรชิต ปรับปรุงข้อบกพร่อง 3 อย่าง ทั้งในเรื่องการเล่นเกมรับ , กินอาหารเช้า รวมถึง มนุษยสัมพันธ์

ขณะที่ วรชิต ที่เคยไปทดสอบฝีเท้าที่ญี่ปุ่นมาแล้ว 3 ครั้งก่อนหน้านี้กับ วิสเซิล โกเบ , เอฟซี โตเกียว และ ในอีเว้นท์งาน (Trial Showcase) ที่ฟูกูดะ เดนชิ อารีน่า สนามเหย้าของ เจฟ ยูไนเต็ด ที่จังหวัดชิบะ ท่ามกลางแมวมองจากทีมต่างๆ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า

 

“ผมเคยไปทดสอบฝีเท้าที่ ญี่ปุ่น 3 ครั้งก่อนหน้านี้ ผมคิดว่ากับ โออิตะ ครั้งล่าสุดน่าจะเป็นครั้งที่ผมทำได้ดีที่สุด ที่นั่นมีการฝึกซ้อมที่ค่อนข้างเคี่ยวกว่าที่ ชลบุรี ก็จริง แต่ส่วนตัวผมคิดว่า ผมเล่นได้ เพราะผมเริ่มรู้จักและปรับตัวเข้ากับสปีดฟุตบอลของที่นั่นได้ดีกว่าที่ผ่านมา”

“ระหว่างอยู่ที่นั่นผมไม่ได้คุยอะไรกับโค้ชมากนัก ส่วนใหญ่ผมจะมีโอกาสฝึกซ้อมกับผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนามหรือไม่มีชื่อในเกมลีก ก็ไม่ได้รู่อะไรเกี่ยวกับแท็คติคของที่นั่นเท่าไหร่ เพราะโค้ชจะไปเน้นที่ผู้เล่นที่เตรียมลงสนาม แต่ถึงยังไง อย่างที่ผมบอก การฝึกซ้อมที่นั่นก็เข้มข้นกว่าที่ ชลบุรี พอสมควร”

วรชิต กล่าวต่อ “ล่าสุดที่กลับมา ผมก็มีโอกาสคุยกับโค้ชเฮง เขาก็บอกว่าที่นั่นประเมินผมอยู่ตลอด หลักๆที่ผมต้องปรับคือเรื่องเกมรับ , การกินอาหารเช้า รวมถึง เรื่องเข้ากับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งผมก็รับฟัง เพราะมันก็จริงทั้งหมด”

“เรื่องเกมรับ ผมอาจเข้าบอลช้าไป ผมต้องพยายามปรับจังหวะการเข้าบอลให้เร็วกว่านี้ สองเรื่องกินอาหารเช้า จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าผมไม่กิน ผมก็กิน แต่ผมกินเป็นพวกขนมปัง เพราะเวลาซ้อมที่นั่นมัน 9 โมง ผมออกจากที่พักก็ประมาณ 7 โมงนิดๆ ก็เลยกินพวกขนมปังมา”

“ส่วนเรื่องสุดท้าย ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่จริงๆผมไม่ใช่คนเงียบอะไรนะ แต่ผมจะเป็นคนที่ถ้าไม่สนิทหรือไม่รู้จักใคร ก็จะไม่พูดคุยเท่าไหร่”

“ทำไมผมมีปัญหาเรื่องเกมรับตลอดหนะหรอ? ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมที่ยังไม่มีพละกำลังมากพอ ซึ่งต้องมีความฟิตที่ดีกว่านี้ แต่อีกส่วนอาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กๆแล้วที่ผมไม่ค่อยได้เล่นเกมรับ ตั้งแต่บอลนักเรียนหรือเยาวชน สังเกตุได้เลยว่า ชลบุรี จะเหนือกว่าทุกทีมตลอด ในเมื่อเราเป็นฝ่ายครองบอลเข้าใส่ เราก็แทบไม่ต้องเล่นเกมรับ”

“อีกอย่างก็เป็นเพราะตำแหน่งที่ผมเล่นด้วย รวมถึงเวลาเล่นกับ ชลบุรี ตอนผมขึ้นมาใหม่ๆ เราก็เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่ถึงยังไง ผมก็เข้าใจว่าฟุตบอลเล่นเกมรุกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเล่นเกมรับด้วย ซึ่งผมก็พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้”

“อย่างไรก็ตามแม้โอกาสเซ็นครั้งนี้จะยัง 50-50 เหมือนที่โค้ชเฮงบอก แต่ผมไม่เคยท้อกับการทดสอบฝีเท้าสักครั้ง ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์สำหรับตัวผมมากกว่า ความฝันของผมยังอยากไปเล่นที่ญี่ปุ่น ไม่แน่ว่าอีก 2-3 ปี ผมอาจพร้อมกว่านี้ก็ได้” วรชิต ปิดท้ายกับ โกล ประเทศไทย

Tags:

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *