พรีวิว เอไอเอส ฟุตซอล ลีก 2017 นัดสุดท้าย ประจำวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.60
ส่งท้ายฟุตซอลลีกคู่ใหญ่ แชมป์อาเซียน การท่าเรือ ปะทะ แชมป์เอเชีย พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน หวดสนามกลาง อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก วันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.นี้ 16.00 น.
ที่สนามภูติอนันต์บางนา เวลา 16.00 น. เจ้าบ้าน ราชนาวี อันดับ 9 มี 29 คะแนน เปิดบ้านรับมือ นนทบุรี ผู้มาเยือน อันดับ 13 มี 18 คะแนน ด้วยสถานการณ์ของทีมที่ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว ทำให้เป็นโอกาสของนักเตะชุดสองและดาวรุ่งที่จะได้รับโอกาสลงสนาม ไม่ว่าจะเป็น ทินกร ศรีเดช, พันธวัช ธงชัย, ณัฐวุฒิ น้ำจันทร์ รวมถึง วรกานต์ นุชลออ ที่จะได้รับโอกาสลงสนามตั้งแต่ต้นเกม ด้าน ที่ยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้น เกมนี้พวกเขาต้องบุกมาเก็บชัยชนะให้ได้ พร้อมกับภาวนาให้ บางกอก ซิตี้ อันดับ 12 ที่ มี 19 คะแนน แพ้ หรือ เสมอ ด้าน นนทบุรี ต้องลุ้นหนักหากจะอยู่รอดไม่ตกชั้น อย่างแรกต้องบุกชนะราชนาวีให้ได้สถานเดียว แล้วลุ้นให้ บางกอก ซิตี้ สะดุดไม่ชนะ โดยเกมนี้ ปฐวีกรณ์ รื่นเสือ ยังคงยึดนักเตะตัวหลักอย่าง ชลวิน ผึ้งใหญ่, วันนิวัต กรีลพ, สหรัฐ ศรีวงกต และ ธีร์ดนัย ยาเขียว นำทัพลงลุย โดยมีรายงานว่าบอร์ดบริหารนนทบุรีอาจมีแจกอัดฉีดพิเศษหากทีมรอดตกชั้นแบบเซอร์ไพร์ส
ที่สนามเทศบาลตำบลปลายบาง เวลา 16.00 น. “มังกรเทพ” บางกอก ซิตี้ อันดับ 12 มี 19 คะแนน รับมือ กรมทางหลวง อันดับ 7 มี 37 คะแนน ที่ยังต้องลุ้นอย่างหนักเพื่อหนีตกชั้น โดยเกมนี้หากพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะได้ จะการันตีการอยู่ในลีกสูงสุดต่อไปทันที โดยการจัดทัพนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อัษฏาวุฒิ แจ้งคต กับ วิวัฒน์ ศรียานงค์ ที่ติดโทษแบน ทำให้ต้องฝากความหวังไว้กับ ธนพล มณีเพชร, ปรัชญา ศรีมันตะ, พีระพล ตากิ่มนอก, จักรพล ศรีนารา ลงเป็นทีเด็ดให้กับทีม ธนาธิป แสงสังข์ ตัวทีมชาติที่เจ็บ โดยมีรายงานว่าหากบางกอก ซิตี้ รอดตกชั้นได้ บอร์ดบริหารอาจมีเซอร์ไพร์สอัดฉีดพิเศษให้ด้วย ด้าน กรมทางหลวง เกมนี้ วิศาล ไหมวิจิตร กุนซือใหญ่ของทีมหวังลูกทีมจะต่อยอดผลงานที่ดีออกไป หลังคว้าชัยมา 4 นัดติดต่อกัน ซึ่งการจัดทัพนัดนี้จะเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งอย่าง ชนาธิป จิตวิบูลย์ และ จิรสิน กิ้มเส้ง ที่ทำผลงานได้โดดเด่น ลงประสานงานบรรดาตัวหลักอย่าง เรนาโต้ โกเมซ, โรมวลโด้ ดา ซิลวา และ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ลงบู๊นัดนี้
หากว่า บางกอก ซิตี้ สะดุดแพ้ กรมทางหลวง ส่วน นนทบุรี บุกยันเจ๊า ราชนาวี จะทำให้ทั้ง บางกอก ซิตี้ และ นนทบุรี มี 19 คะแนนเท่ากัน แต่จะเป็น บางกอก ซิตี้ จะรอดตกชั้นด้วยผลงานเฮดทูเฮดที่ดีกว่า นนทบุรี ด้วยผลงาน 4 คะแนน เลกแรก 27 มี.ค.60 บางกอก ซิตี้ ชนะ นนทบุรี 8-1 ส่วนเลกสอง 17 ธ.ค.60 นนทบุรี เสมอ บางกอก ซิตี้ 3-3
ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี เวลา 16.00 น. เจ้าถิ่น แบงค็อก บีทีเอส อันดับ 3 มี 50 คะแนน เกมนี้จะไม่มี ปัญญา บัวคำ ที่ติดโทษแบน แต่ก็จะได้ ปัญญา อรัญภูวนารถ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง แม้จะไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว แต่อาจถูก ม.เกษมบัณฑิต อันดับ 4 ที่มีคะแนนตามหลัง 2 คะแนนแซงได้เช่นกัน โดยการจัดทัพนัดนี้แกนหลักอย่าง มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, ปัญญพนต์ พุ่มวิเศษ, พีระพล สัตย์ซื่อ, อธิวัฒน์ ภิบาลสิงห์ รวมถึง นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ ยังอยู่ครบ และพร้อมลงพาทีมเก็บ 3 คะแนนส่งท้ายให้ได้ ด้านผู้มาเยือน ห้องเย็นท่าข้าม อันดับ 8 มี 37 คะแนน ที่ฟอร์มในช่วงเลกสอง เด็ดสะระตี่ หวังจะส่งท้ายฤดูกาลด้วยผลงานที่ดีเช่นกัน ซึ่งการจัดทัพนัดนี้จะได้ เวนเดล จอมเทคนิคชาวบราซิล กลับมาประสานงานกับ จาคินิลสัน ตัวทีเด็ดเพื่อนร่วมชาติอีกครั้ง และจะทำให้เกมรุกของโต๊ะเล็กห้องเย็นกลับมาหลากหลายอีกครั้ง นอกจากนี้แข้งตัวเก่งอย่าง คฑาวุธ ภู่พันธ์, สุพจน์ มากรักษ์ และ อำพล ศรีระแก้ว ก็ยังอยู่กันครบพร้อมรบทุกตำแหน่ง
ที่สนามเอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ โคราช เวลา 16.00 น. เจ้าบ้าน นครราชสีมา เดอะมอลล์ วี-วัน อันดับ 14 ที่ตกชั้นไปแล้ว พบ พัทยา ไทย-เทค อันดับ 11 มี 24 คะแนน “ซุปเปอร์แคท” ก็ยังทุ่มเต็มที่ และหวังจะคว้าชัยชนะส่งท้ายมอบให้กองเชียร์ของพวกเขาให้ได้ โดยนัดนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บุญฤทธิ์ คุ้มครอง ที่ติดโทษแบน แต่จะได้ ธนากร ปิยะปรีชายุทธ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกให้ทีมอีกครั้ง ประสานงานกับ อนันท์วัช ทรัพย์อุดม, ธีระพงษ์ จันสกุลวิบูลย์ และ เกียรติศักดิ์ กันทะสอน เป็นแกนหลักให้กับทีมนัดนี้ ด้าน พัทยา ไทย-เทค นำโดย เศรษฐกรชัย ชื่นตา โค้ชแอนด์เพลเยอร์ของทีม ได้ สามารถ กาฬภักดี พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ซึ่งการจัดทัพของทีมนัดนี้บรรดานักเตะชุดสองอย่าง มนัส บู่ทอง, วันชัย หาวอ, นุกูล ประจิตร, จตุรงค์ สุขดี น่าจะได้รับโอกาสลงสนามตั้งแต่ต้นเกม
ที่สนาม ช้าง ตาปี อารีน่า เวลา 16.00 น. เจ้าบ้าน สุราษฏร์ธานี อันดับ 5 มี 45 คะแนน พบ ม.เกษมบัณฑิต อันดับ 4 มี 48 คะแนน เจ้าบ้าน สุราษฏร์ธานี นำโดย พัทยา เปี่ยมคุ้ม กุนซือใหญ่ของทีมหวังลูกทีมจะเดินหน้าคว้าชัยชนะส่งท้ายมอบให้บรรดากองเชียร์ของทีมให้ได้ โดยหากชนะไม่ว่าจะสกอร์เท่าไหร่ ก็จะทำให้ สุราษฎร์ธานี แซงเข้าป้ายเป็นอับดันที่ 4 ของศึกฟุตซอลลีก2017ทันที โดยนัดนี้ กุ้งสายฟ้า จะได้ กูกู้ จอมทัพชาวบราซิล พ้นโทษแบน กลับมาประสานงานกับ เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง, ธนากร ใจเวช, พรเทพ โสณะมิตร และ ณัฐวัติ ลักษณะโต ที่พร้อมจะลาตาข่ายพาทีมคว้าชัย ส่วนที่จะพลาดลงสนามคือ กิตติพงษ์ โพธิ์ชัย ที่เจ็บหัวเข่า รวมถึง วิฑูรย์ ถาพินนา ตัวจบสกอร์ที่เป็นโรคภูมิแพ้ผื่นขึ้นตัว ทำให้ยังไม่พร้อมลงเล่นเกมสุดท้าย ด้าน ม.เกษมบัณฑิต นัดนี้ สมบัติ ปานสมุทร กุนซือใหญ่ของทีม ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพ บรรดาแข้งตัวหลักอย่าง ทศพร โอทอง และ อนันตชัย ปราบวงษา ยังโชว์ผลงานได้ดีทั้งยิงทั้งจ่าย ซึ่งจะประสานงาน จัหจาฮ อันเวอร์ บัตต์ ที่จะเป็นทีเด็ดพาทีมลุ้นเก็บคะแนนกลับบ้านให้ได้ ส่วนรายของ เบญจรงค์ พานพบ ตัวหลักของทีมที่มีอาการล้าจากการลงสนามถี่ อาจถูกดร็อปในเกมนี้
ทั้งนี้ ม.เกษมบัณฑิต ก่อนเกมนัดสุดท้าย รั้งอันดับ 4 ของตาราง มี 48 แต้มจาก 25 นัด ส่วน สุราษฎร์ธานี รั้งอันดับ 5 มี 45 แต้มจาก 25 นัด โดยผลงานเลกแรกที่พบกัน ม.เกษมบัณฑิต ชนะ สุราษฎร์ธานี 3-0 หากเลกสอง สุราษฎร์ธานี เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 1-0 ขึ้นไป ก็จะทำให้ สุราษฎร์ธานี มี 48 แต้มเท่า ม.เกษมบัณฑิต อีกทั้งยังมีเฮดทูเฮดเท่ากันที่ชนะคนละ 1 เกม แต่จะเป็น สุราษฎร์ธานี ที่แซงเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 4 เมื่อมีจำนวนเกมชนะที่มากกว่าตามลำดับ 15-14 เกม
ที่ศูนย์กีฬาในร่มศิริวัณนวรีกีฬาเวสน์ เวลา 16.00 น. เจ้าบ้าน “กูปรีปราสาทขอม”ศรีสะเกษ อันดับ 10 มี 26 คะแนน พบ สมุทรสาคร อันดับ 6 มี 41 คะแนน เจ้าบ้าน “กูปรีปราสาทขอม”ศรีสะเกษ นัดนี้ ทัตพงษ์ ธรรมรงค์รักษ์ กุนซือใหญ่ของทีม จะส่ง ราม่อน ปาเบา และ คริเตียโน่ ดูอาร์เต้ 2 แข้งต่างชาติลงล่าตาข่ายให้ทีม พร้อมประสานงานกับดาวเตะตัวหลักอย่าง อภินันท์ ขันทอง, อนุชา หอมเสน และ ภูเบศ คงทอง ซิวชัยส่งท้ายให้ได้ ด้าน สมุทรสาคร เกมนี้ สุรัตน์ แซ่อุย นายด่านเบอร์ 1 ของทีม ติดโทษแบนลงสนามช่วยทีมไม่ได้ แต่ ปารเมศ จิตสำราญ พร้อมลงทำหน้าที่แทน ผนึกกำลังกับ อลงกรณ์ จันทร์พร, เอกสิทธิ์ แก้วคงเมือง, ภุชงค์ เจริญศรีหัสนา และ กีรติ จงสถิตเสถียร ลุ้นคว้าแต้มกลับบ้าน
บิ๊กแมตช์นัดส่งท้ายฤดูกาล การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ ทีมอันดับ 2 พบ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่คว้าแชมป์ปีนี้ไปครองแล้ว โดยถือเป็นเกมนัดสำคัญที่เรียกได้ว่า แชมป์อาเซี่ยน อย่าง การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ จะต้องพบแชมป์เอเชีย อย่าง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ซึ่งเป็นการเจอกันในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่เรียกได้ว่านานๆครั้งจะเกิดขึ้นในโลกฟุตซอลด้วย ถ่ายทอดสดช่องไทยรัฐทีวี เอชดี 32
เกมคู่นี้ได้บทสรุปโยกสังเวียนแข่งขัน มาที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เวลา 16.00 น. เนื่องจากเจ้าถิ่นโดนโทษแบนรังเหย้า 1 นัด โดยยังเปิดให้แฟนบอลทั้งสองทีมเข้าชมเกมได้ ค่าบัตรคนละ 100 บาท ความพร้อมของ สิงห์คลองเตย เกมนี้ อุดม ทวีสุข กุนซือใหญ่การท่าเรือ ประกาศชัดแม้หมดลุ้นแชมป์แล้ว แต่จัดเต็มไม่มีผ่อนแน่นอน โดยเกมนี้ มากอส วินิซิอุส รวมถึง เตียโก้ มอร่า 2 ดาวเตะชาวบราซิลของทีมจะฟิตกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง ประสานงานกับ เลิศชาย อิสราสุวิภากร, ณัฐพล จันทร์หอมหวล, วัชระ ลัยศรี และ ธนัญชัย ชมบุญ รวมถึง ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง และ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ก็พร้อมแสตนด์บายลงช่วยกัน
ด้าน โต๊ะเล็กฉลามพลังเพลิง แชมป์ฟุตซอลลีก 9 สมัย โดยถือเป็นแชมป์ 8 สมัยติด เกมนี้ รักษ์พล สายเนตรงาม กุนซือใหญ่ของทีม ได้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ดาวยิงตัวเก่ง และผู้นำดาวซัลโวสูงสุดของลีก จำนวน 21 ประตู กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง โดยจะประสานงานกับตัวหลักอย่าง ซาปา, กฤษดา วงษ์แก้ว, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง และ ดิเอโก้ นูเนซ ที่จะลงล่าตาข่ายก่อนอำลาทีมไปค้าแข้งที่ลีกสเปน ส่วน จิรวัฒน์ สอนวิเชียร อาจจะยังไม่พร้อมในเกมนี้ แม้ว่าจะไม่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ แต่ผลแพ้ชนะมีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน เพราะหาก การท่าเรือ สามารถเอาชนะ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ได้ จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเอาชนะ ฉลามชล ได้ทั้งเหย้าและเยือน
