อาร์เซนอลใช้โอกาสเปลืองได้แค่เฉือนเชลซี10คนหวิว 2-1 ผงาดซิวแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 13

อาร์เซนอล ได้ อารอน แรมซี่ย์ โหม่งพังประตูชัยท้ายเกม ช่วยให้ทีมเฉือนเอาชนะ เชลซี ที่เหลือผู้เล่น 10 คน หวุดหวิด 2-1 ศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ นัดชิงชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ คืนวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2560

เริ่มครึ่งแรกมา 5 นาที อาร์เซนอล ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ ปั้มแย่งบอลจาก เซซาร์ อัซเปลิกวยต้า แล้วหลุดไปซัดล่อเป้าผ่านมือ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ตอนแรกผู้กำกับเส้นยกธงจับแฮนด์บอล แต่หลังปรึกษากันผู้ตัดสินปล่อยให้เป็นประตู

อาร์เซนอลลุยต่อ นาทีที่ 19 พวกเขาพลาดโอกาสทอง จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เมซุต โอซิล รับหน้าที่เปิดเข้ากลางให้ แดนนี่ เวลเบ็ค เทกตัวขึ้นโขกชนเสาสอง บอลเข้าทาง อารอน แรมซี่ย์ ตามซ้ำจ่อๆ ก็ยังชนเสาออกหลัง

ครึ่งหลัง เชลซี กลับมาพับสนามบุก แต่นาทีที่ 68 พวกเขาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ วิคเตอร์ โมเซส ไปพุ่งล้มเรียกจุดโทษ ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ยืนอยู่ใกล้เหตุการณ์ไม่หลงกล ควักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

ทว่า 10 คน ของ เชลซี มาตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ วิลเลียน ตักบอลโด่งเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ดิเอโก้ คอสต้า กระโดดพักอกเอาบอลลงแล้วยิงยัดเสาแรกผ่านมือ ดาวิด ออสปิน่า ง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 79 อาร์เซนอล มาได้ประตูชัย 2-1 จากจังหวะที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้บอลหลุดไปทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดตวัดลึกไปเสาสอง บอลลอยข้ามแนวรับเชลซี เข้าทาง อารอน แรมซี่ย์ โฉบมาโขกจ่อๆ ไม่พลาด

ท้ายเกมนาทีที่ 87 อาร์เซนอล พลาดโอกาสทอง จากจังหวะสวนกลับเร็ว เมซุต โอซิล ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนล็อกหนีแนวรับเชลซี แล้วซัดหักข้อด้วยซ้ายหลอก ติโบต์ กูร์ตัวส์ แต่บอลพุ่งชนเสาน่าเสียดาย

จบเกม อาร์เซนอล เฉือนชนะ เชลซี ที่เหลือผู้เล่น 10 คน หวุดหวิด 2-1 ผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 13 มาครองได้สำเร็จ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ คว้าแชมป์รายการนี้ครั้งที่ 7 เป็นกุนซือที่คว้าแชมป์มากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน